ตัว เลข...มหัศจรรย์แห่งโชคลาง
อาถรรพ์ของตัวเลข เป็นอีกเรื่อง หนึ่งที่ผู้คนให้ความสนใจและเชื่อถือกันมายาวนาน ไม่เพียงแต่ประเทศเราเท่านั้น เพราะแม้แต่ต่างประเทศก็มีความเชื่อเรื่องของตัวเลขแตกต่างกันออกไป นั่นเป็นเพราะชีวิตของเราต้องพัวพันอยู่กับตัวเลขอยู่ ตลอดเวลากระมัง ไม่ว่าจะเป็น วัน เดือน ปีที่เกิด เวลา เบอร์โทรศัพท์ ทะเบียนรถ เลขที่บ้าน ล้วนแล้วแต่ต้อง เกี่ยวข้องกับตัวเลขทั้งสิ้น จึงทำให้ความเชื่อ เรื่องตัวเลขเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันได้แทบทุกเรื่อง ถ้าไม่เชื่อ! ลองตามไปดู ความเชื่อในตัวเลขต่างๆ กันดู เอาแค่เบาะๆ
ความ เชื่อในเรื่องของตัวเลขแต่ละชนชาติมีความเชื่อที่แตกต่างกันไป สำหรับเลข 7 คนยุโรปถือว่าเป็นเลขที่ดีและให้โชคลาภ เป็นเลขศักดิ์สิทธิ์และมีอำนาจพิเศษ ยิ่งถ้ามีหลายๆ ตัวจะยิ่งทำให้เกิดโชคดีมากขึ้นไปอีก ตรงกับความเชื่อของคนญี่ปุ่นที่ถือว่าเลข 7 เป็นเลขมงคล เพราะเลข 7 คนญี่ปุ่นอ่านว่า ชิจิ อีกทั้งเลข 7 ยังเป็นความเชื่อเกี่ยวกับความรักตามแบบฉบับของฝรั่งอีกด้วย เรื่องราวอาถรรพณ์ของเลข 7 กับทฤษฎี "เซเว่น เยียร์ อิทส์" (seven year itch) มีอยู่ว่า ใครที่เป็นแฟนกันแล้ว 7 ปี หากยังไม่แต่งงานใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจะต้องมีเหตุให้เลิกรากันไป ที่มีมูลเหตุมาจากผลงานวิจัยของชาวต่างชาติในเรื่องคุณภาพของชีวิตสมรสที่ เริ่มต้นแบบหวานแหววเหมือนกันหมด และจะเริ่มตกลงในราวปีที่ 7 ที่ความรักเริ่มจืดจางลง
เมื่อ วันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 เป็นอีกวันหนึ่งที่ตอกย้ำกระแสความเชื่อแห่งตัวเลข เมื่อผู้คนพากันทำกิจกรรมอันเป็นมงคลต่างๆ ในวันนี้ ไม่ว่าจะแต่งงาน คลอดบุตร จัดงานรื่นเริงต่างๆ และส่งอิทธิพลมาถึงเมืองไทยอย่างง่ายดาย เมื่อทารก คนหนึ่งได้คลอดออกมาบนรถแท็กซี่ ทะเบียนรถ 7777 ทำให้คนไทยได้ฮือฮาไปด้วย แต่ สำหรับคนไทยจริงๆ แล้ว มีคำกล่าวโบราณเป็นความเชื่อทางโหราศาสตร์ที่ว่า โทษทุกข์ทายเสาร์ เลข 7 เป็นเลขแห่งความทุกข์ ความอมทุกข์ จึงมักถือว่าเป็นเลขไม่เป็นมงคลนักสำหรับคนไทย
เลข 8 สำหรับคนญี่ปุ่น ถือว่า เป็นเลขมงคลอีกเลขหนึ่ง มีความเชื่อว่าเป็นเลขแห่งความสมบูรณ์ ความสมดุล มีที่มาจากความเชื่อเรื่องศาสตร์แห่งความสมดุลของขงจื๊อ รวมทั้งความเชื่อในนิกายเซน ซึ่งไปพ้องกับความเชื่อของคนญี่ปุ่น
ส่วนชาวจีน ที่ทำการค้าจะชื่นชอบเลข 8 เป็นที่สุด เพราะ 8 ในภาษากวางตุ้งไปพ้องกับคำที่มีความหมายว่า ร่ำรวย มั่งมี ตั้งแต่เปิดประเทศมานั้นชาวกวางตุ้งเป็นรุ่นแรกๆ ที่เริ่มทำการค้าและประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง คนจีนในมณฑลอื่นๆ จึงถือเป็นแบบอย่างในการทำธุรกิจและถือเลข 8 เป็นเลขมงคลตามอย่างคนกวางตุ้งรวมทั้งยังหมายถึง 8 เซียน หรือโป๊ยเซียน ที่คอยดูแลปกป้องรักษา อีกทั้งยังไปคล้องกับสัญลักษณ์ความเป็นนิรันดร์ในยุโรป แต่เลข 8 ในความเชื่อของไทยมักเป็นเลขไม่ดี เลขแห่งราหู หมายถึงการทะเลาะวิวาท ความเดือดร้อน
แม้เลข 8 จะมีรูปทรงสมมาตรสวยงามและเป็นเลขนำโชคของคนจีน แต่อย่านำเลข 8 สองตัวมาใช้ในยุโรปเด็ดขาด ถ้าไม่อยากโดนเข้าใจผิดว่าคุณเป็นพวกนิยมนาซี เพราะในยุคฮิตเลอร์เรืองอำนาจ ชาวเยอรมันจะตะโกนว่า Heil Hitler เมื่อ ย่อเป็นภาษาเขียนก็จะกลายเป็น HH ซึ่งมีรูปร่าง คล้ายหมายเลข 88 และตัว H ยังเป็นตัวอักษรตัวที่ 8 ของภาษาอังกฤษอีกด้วย เลข 88 จึงมีการนำมาใช้เพื่อประกาศว่า ข้าเป็นนาซี ซึ่งพบเห็นได้บ่อยๆ ใน email address หรือชื่อ websiteของกลุ่ม นีโอนาซีที่มักลงท้ายด้วยเลข 88
เลข 9 สำหรับคนไทยคงรู้กันดีว่า เป็นเลขมงคลที่อยู่คู่กันมาช้านาน เพราะเชื่อว่าเลข 9 ออกเสียงพ้องกับคำว่า ก้าว หมายถึง ก้าวไปข้างหน้า ส่งผลให้ตัวเลข 9 กลายเป็นเลขมงคลที่คนไทยนิยมมากทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะทะเบียนรถที่มีเลข 9 เยอะๆ นี่ราคาดีอย่าบอกใครเชียว ผิดถนัดกับหนุ่มสาวแดนปลาดิบที่ดูจะไม่ชอบเลข 9 เอาเสียเลย เพราะตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นนั้น เลข 9 ในภาษาญี่ปุ่นจะอ่านออกเสียงว่า คุ ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำที่หมายถึง ความยากลำบาก จึงถือว่าไม่ดีและไม่ งาม โดยเฉพาะบรรดานักเรียน ม.ปลาย ที่กำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยถือว่าสำคัญต่ออนาคตของหนุ่มสาวญี่ปุ่นมาก ถ้าใครได้ทะเบียนสอบหมายเลข 9 ถือว่าซวยสุดๆ เห็นทีคงต้องสะเดาะเคราะห์กันขนานใหญ่ สำหรับคนจีน เลข 9 ถือเป็นเลขมงคลเช่นกัน เนื่องจากเป็นเลขที่มีค่ามากที่สุดจึงเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ ความเป็นที่สุด นอกจากนี้เสียงอ่านของเลข 9 ยังพ้อง เสียงกับคำว่า นาน ยาวนาน ที่แสดงถึง การมีอายุยืน จึงทำให้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลข 9 จึงครองใจ ชาวจีนตลอดมาไม่ต่างจากคนไทย
เลข 13 เป็นอีกเลขหนึ่งที่ยอดฮิตเหมือนกัน แต่เป็นความเชื่อเกี่ยวกับความโชคร้ายของฝรั่งเขา อาถรรพณ์เลข 13 นั้น ชาวคริสต์มีความเชื่อว่าเลข 13 เป็นเลขอัปมงคล เนื่องจากเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ที่เรียกกันว่า "เดอะ ลาสต์ ซัปเปอร์" (The Last Supper) ที่มีสาวกร่วมโต๊ะ พร้อมหน้ากันกับพระองค์รวม 13 คน และความเชื่อว่าวันศุกร์เป็นวันโชคร้ายเพราะเป็นวันที่พระเยซูคริสต์ถูกตรึง กางเขน และเป็นวันที่อดัมกับอีฟละเมิดกัดแอปเปิ้ลต้องห้ามของพระผู้เป็นเจ้าในสวน เอเดนจนต้องถูกขับไล่ออกมา ยิ่งกว่านั้นยังเชื่อว่าเป็นวันที่อดัมกับอีฟล้มตายจากโลกอีกด้วย ดังนั้นเมื่อวันศุกร์ตรงกับวันที่ 13 จึงเป็นวันที่เลวร้ายมากวันหนึ่งของฝรั่งเขาเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าลิฟของต่างประเทศมักจะไม่มีชั้น 13 นอกจากนี้เลข 13 มีอิทธิพลขยายไปอย่างกว้างขวางในอเมริกาและยุโรป ที่ทำให้นักเดินเรือในบางประเทศไม่ยอมออกเรือในวันที ่ 13 และที่แปลกไปกว่านั้นในประเทศตุรกีถึงขนาดตัดเลข 13 ออกจากสารบบของตัวเลขกันไปเลยทีเดียว
อีกเลขหนึ่งที่หลายชาติ ส่ายหน้าคือเลข 4 เนื่องจากในภาษาญี่ปุ่น 4 อ่านออกเสียงว่า ชิ ความตายก็อ่านว่า ชิ เช่นเดียวกัน ซึ่งออกเสียงคล้ายกันมาก จึงทำให้ห้องตามอพาร์ตเมนต์หรือโรงพยาบาลในญี่ปุ่นจะ ข้ามเลข 4 มีแต่ห้อง 1 2 3 ห้องต่อไปเป็นเลข 5 โดยที่ไม่มีเลข 4 ให้เห็นเลย สอดคล้องกับความเชื่อของช่วยจีนที่ 4 ออกเสียงคล้าคำว่า ซี้ ที่แปลว่าตายเช่นเดียวกัน
นี่ว่ากันแค่เบาะๆ สำหรับความเชื่อเรื่องตัวเลข ตัวเลขยังมีอิทธิพลอีกมายมายกับชีวิตมนุษย์ แทบจะทั้งโลกก็ว่าได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าด้วยเหตุผล อะไร ทั้งๆ ที่มันก็เป็นแค่ตัวเลข แต่ไม่ว่าใครก็อดเสียไม่ได้ที่จะเชื่อ ที่จะถือ ที่จะสรรหาเลขที่เชื่อว่าเป็นมงคลสำหรับตัวเองมากที่สุด ถ้าอยากรู้ว่าตัวเลข ยังมีอิทธิพลมากมายอีกสักแค่ไหน คงต้องติดตามตอนต่อไป เพราะเรื่องมันยาว เล่าอย่างไรก็ไม่หมด
No comments:
Post a Comment